เห็ดหลินจือ มี ชื่อวิทยาศาสตร์ Ganoderma Lucudum. ชื่ออังกฤษ Reishi, Ling
Zhi. ชื่อท้องถิ่น เห็ดหลินจือ ,เห็ดหมื่นปี
หรือ เห็ดหิมะ (1) เห็ดหลินจือมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในป่าเขาของประเทศจีน
ตามประวัติเห็ดหลินจือเป็นยาจีน (Chinese traditional medicine) ที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี โดยชาวจีนโบราณต่างยกย่องเห็ดหลินจือ
อย่างเหนือชั้นว่าดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีนนอกจากจะมีสรรพคุณเหนือชั้นกว่าแล้วยังปลอดภัยไม่มีพิษใด
ๆ ต่อร่างกาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีนักวิชาการหลายประเทศได้ทำการวิจัย เห็ดหลินจืออย่างกว้างขวาง
มีเอกสารวิชาการที่เผยแพร่ออกมามากกว่าร้อยฉบับ ทั้งด้านการศึกษาองค์ประกอบทางเคมี
สารออกฤทธิ์ สรรพคุณทางยา
มีการทดลองในห้องปฏิบัติการและรายงานเชิงสถิติทางการแพทย์ในการรักษาโรค
ซึ่งพบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านมะเร็ง
และจากการทดสอบพิษวิทยาพบว่าเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยในการบริโภค
Ø สาระสำคัญและกลไกการออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งของเห็ดหลินจือ (2,3)
จากการศึกษาวิจัยพบว่าน้
ามันภายในสปอร์ของเห็ดหลินจือมีสารออกฤทธิ์สำคัญสะสมเข้มข้นมากที่สุด
ซึ่งสารดังกล่าวนั้น ได้แก่ สาร polysaccharides
และ triterpenoids โดยสาร
polysaccharides
จะเป็นสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อนหลายชนิดโดยเฉพาะ beta-D-glucan
จะเป็นตัวที่ออกฤทธิ์ในการต้านเซลล์มะเร็งโดยออกฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
จึงมีฤทธิ์โดยทางอ้อมในการต่อต้านมะเร็ง
อย่างไรก็ตามการค้นคว้าวิจัยในระยะหลังมุ่งเน้นการศึกษาไปที่สาร triterpenoids
โดยเฉพาะ ganoderic acid ซึ่งมีการออกฤทธิ์ในการยับยั้งการลุกลามของมะเร็งโดยตรง ทั้งนี้กลไกการออกฤทธิ์นั้นเป็นไปอย่างซับซ้อนและมีหลายกลไกทำงานร่วมกัน
ซึ่งกลไกหลักๆ สามารถสรุปได้ดังนี้
การออกฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งโดยตรง
จากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสาร triterpenoids ออกฤทธิ์เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งโดยตรงได้หลายชนิด
(ในขณะที่สาร polysaccharides ไม่แสดงคุณสมบัติดังกล่าว )
ดังนี้ สาร ganoderic acid U, V, W, X, Y และ Z ซึ่งสารทั้ง 6 ชนิดนี้
มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นในตับได้อย่างแรง , สาร ganoderic
acid Me มีฤทธิ์ยับยั้งการกระจายตัวของมะเร็งปอด, สาร ganoderic acid T มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งปอด,
สาร ganoderic acid D มีฤทธิ์ยับยั้งมะเร็งปากมดลูก,
สาร ganoderic acid A, F และ H มีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่กระจายของมะเร็งเต้านม และสาร lucidenic acids
A, B, C และ N มีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
นอกจากนี้ยังพบว่าสารกลุ่ม triterpenoids เสริมฤทธิ์ของ doxorubicin ในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง
โดยเพิ่ม oxidative stress ทำให้ DNA damage และเกิดการ apoptosis ในที่สุด
การขัดขวางปฏิกิริยา
oxidation อันตรายที่สำคัญที่เกิดจากเซลล์มะเร็งคือการทำลาย DNA จากปฏิกิริยา oxidation
และหาก DNA ที่ถูกทำลายดังกล่าวเกิดการแบ่งตัวต่อไปก่อนที่ร่างกายจะสามารถซ่อมแซมให้ กลับมาเป็นปกติจะทำให้เกิดการกลายพันธุ์เป็นสารก่อมะเร็งอย่างถาวร ซึ๋งจากการวิจัยพบว่าสาร triterpenoids ที่สกัดจากเห็ดหลินจือสามารถกำจัดสารอนุมูลอิสระและยับยั้งปฏิกิริยา oxidation
การรออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการขยายตัวของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง เมื่อเซลล์มะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้นจำเป็นต้องมีเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยงมากขึ้น
เซลล์มะเร็งจะปล่อยสารกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้การขยายตัวของเซลล์มะเร็งเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
จากการวิจัยพบว่าสาร triterpenoids กลุ่ม ganoderic
acid F จะยับยั้งการขยายตัวของมะเร็งในระยะแรกในตับและม้าม
และยับยั้งการลุกลามของมะเร็งในระยะที่สองในตับของหนูทดลองที่มีการปลูกถ่ายเซลล์มะเร็งชนิด Lewis
lung carcinoma ซึ่งจากผลการวิจัย แสดงให้เห็นว่าสาร
triterpenoids อกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการขยายตัวของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งได้
การยับยั้งการสื่อสารระหว่างเซลล์มะเร็ง
จากการทดลองกับเซลล์มะเร็งตับชนิด Huh-7 พบกว่าสาร triterpenoids ชนิด
ganoderic acid สามารถลดการขยายตัวของเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่ไม่มีผลต่อเซลล์ตับปกติสารจากการที่ไปยับยั้งการสื่อสารระหว่างเซลล์มะเร็งไม่ให้เกิดการแบ่งเซลล์ สำหรับสารกลุ่ม polysaccharides จากการทดลองในสัตว์ทดลองพบว่าไม่ได้มีผลทำให้เซลล์ตายแบบ apoptosis แต่มีผลเหนี่ยวนำให้
macrophage หรือ T
lymphocyte หลั่ง TNF-alfa และ IFN-gramma ซึ่งเป็นสารสื่อที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
จากฤทธิ์การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และยังสามารถยับยั้งการเกาะติดของเซลล์มะเร็ง
กับเซลล์ HUVECs (human
umbilical cord vascular endothelium cells) ได้และนอกจากนี้สารกลุ่ม
polysaccharides สามารถลดพิษจากการใช้ยา cyclophosphamide
ในการรักษาและการฉายรังสีด้วยโคบอลท์ 60 ในหนูได้
จึงน่าจะนำมาใช้เป็น cancer chemopreventive ได้
การทดลองทางคลินิกจากการรวบรวมงานวิจัยโดย Sliva D. ในด้านการศึกษาฤทธิ์ในการป้องกันมะเร็งและการรักษามะเร็งในเอเชียถึงการนิยมรับประทานเห็ดหลินจือส่วนใหญ่ได้มีการนำมาใช้กับโรคมะเร็งและเชื่อมโยงไปยังการมีอัตราการตายที่ต่ำกว่า โดยเห็ดหลินจือจะไปยับยั้งปัจจัยในการถอดรหัส คือ factors NF – kB และ AP - 1 ที่เป็นเป้าหมายของการรักษาโรคมะเร็งเนื่องจาก NF – kB ควบคุมการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้องในการยึดเกาะของเซลล์ , การเคลื่อนที่และการแพร่กระจาย (UPA, UPAR) โปรตีนที่ปกป้องการตายของเซลล์ (Bcl-2, BclXL) โดยการยับยั้ง NF – kB นี้จัดเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันและการรักษาโรคมะเร็ง
จากการศึกษาของ Jiang J และคณะ (6) ศึกษาถึงส่วนที่มีการต้านมะเร็งของเห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) ซึ่งพบว่าการที่มีโครงสร้างของ triterpene อยู่ ได้แก่ ganoderic และ lucidenic acids สามารถออกฤทธิ์ต้านมะเร็งได้โดยตรงโดยในการศึกษานี้จะแสดงถึง ganodermanontriol (GDNT) ซึ่งเป็น Ganoderma alcohol ซึ่งจะไปยับยั้งการแบ่งตัวอย่างเฉพาะเจาะจง (anchorage-dependent growth) และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของโคโลนี (anchorage-independent growth) ของเซลล์ MDA-MB-231 ที่พบอยู่ในมะเร็งเต้านมระยะลุกลามสูง โดยที่ GDNT ยับยั้งการแสดงออกของวัฏจักรเซลล์ซึ่งถูกก ากับดูแลโดยโปรตีน CDC20 ซึ่งมันจะมีการแสดงออกที่มากขึ้น ในเซลล์ก่อนเป็นมะเร็งและเซลล์มะเร็งเต้านม โดย GDNT ยังยับยั้งพฤติกรรมการแพร่กระจาย (เช่น การยึดเกาะของเซลล์ การเคลื่อนย้ายของเซลล์ และการรุกรานของเซลล์ ) ผ่านทางการยับยั้งการหลั่งของ urokinase-plasminogen activator (uPA) และยับยั้งการแสดงออกของ uPA receptor
จากการศึกษาของ Martínez-Montemayor MM และคณะ4 โดยทำการศึกษาในเซลล์มะเร็งเต้านมอักเสบ หรือเซลล์ Inflammatory breast cancer (IBC) โดยทำการศึกษาถึงมะเร็งเต้านมอักเสบ โดยธรรมชาติของการเกิด IBC นี้จะมีการลุกลามไปที่ระบบต่อมน้ำเหลืองและเป็นระยะที่ไม่สามารถคลำก้อนมะเร็งได้อย่างชัดเจน โดยเซลล์ IBC จะลุกลามโดยก่อให้เกิดการเปลี่ยนรูปร่างก้อนมะเร็งเป็นทรงกลมและมีการเกาะของ E-cadherin-based cell–cell อยู่โดยผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเห็ดหลินจือมีการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งอย่างเฉพาะเจาะจงแต่ไม่มีผลต่อการยับยั้งการเจริญของเซลล์เยื่อบุผิวเต้านมที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง เห็ดหลินจือยังยับยั้งการลุกลามและขัดขวางการเกิดเซลล์ทรงกลม ซึ่งเป็นลักษณะของเซลล์ IBC ที่มีระยะแพร่กระจาย นอกจากนี้เห็ดหลินจือยังลดการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของเซลล์มะเร็งและการแพร่กระจายซึ่งได้แก่ ยีน BCL-2, TERT, PDGFB และลดการแสดงออกของยีนของการลุกลามและแพร่กระจาย คือ ยีน MMP - 9 และเห็ดหลินจือยังลดจำนวนยีน Bcl - 2, Bcl – xL ซึ่งเป็นยีนในกลุ่มต่อต้านการตายของเซลล์มะเร็ง
อย่างไรก็ตาม เห็ดหลินจือเป็นเพียงส่วนหนึ่งในพืชสมุนไพรหลายอย่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่สามารถที่จะรักษาอาการป่วยได้ทุกโรค การใช้จึงควรมีวิจารณญาณ มีเหตุมีผล มีความรู้ ความเข้าใจ สรรพคุณและวิธีการใช้ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง และติดตามผลอย่างใกล้ชิดทั้งนี้เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วย หรือผู้บริโภคอย่างแท้จริง
การทดลองทางคลินิกจากการรวบรวมงานวิจัยโดย Sliva D. ในด้านการศึกษาฤทธิ์ในการป้องกันมะเร็งและการรักษามะเร็งในเอเชียถึงการนิยมรับประทานเห็ดหลินจือส่วนใหญ่ได้มีการนำมาใช้กับโรคมะเร็งและเชื่อมโยงไปยังการมีอัตราการตายที่ต่ำกว่า โดยเห็ดหลินจือจะไปยับยั้งปัจจัยในการถอดรหัส คือ factors NF – kB และ AP - 1 ที่เป็นเป้าหมายของการรักษาโรคมะเร็งเนื่องจาก NF – kB ควบคุมการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้องในการยึดเกาะของเซลล์ , การเคลื่อนที่และการแพร่กระจาย (UPA, UPAR) โปรตีนที่ปกป้องการตายของเซลล์ (Bcl-2, BclXL) โดยการยับยั้ง NF – kB นี้จัดเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันและการรักษาโรคมะเร็ง
จากการศึกษาของ Jiang J และคณะ (6) ศึกษาถึงส่วนที่มีการต้านมะเร็งของเห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) ซึ่งพบว่าการที่มีโครงสร้างของ triterpene อยู่ ได้แก่ ganoderic และ lucidenic acids สามารถออกฤทธิ์ต้านมะเร็งได้โดยตรงโดยในการศึกษานี้จะแสดงถึง ganodermanontriol (GDNT) ซึ่งเป็น Ganoderma alcohol ซึ่งจะไปยับยั้งการแบ่งตัวอย่างเฉพาะเจาะจง (anchorage-dependent growth) และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของโคโลนี (anchorage-independent growth) ของเซลล์ MDA-MB-231 ที่พบอยู่ในมะเร็งเต้านมระยะลุกลามสูง โดยที่ GDNT ยับยั้งการแสดงออกของวัฏจักรเซลล์ซึ่งถูกก ากับดูแลโดยโปรตีน CDC20 ซึ่งมันจะมีการแสดงออกที่มากขึ้น ในเซลล์ก่อนเป็นมะเร็งและเซลล์มะเร็งเต้านม โดย GDNT ยังยับยั้งพฤติกรรมการแพร่กระจาย (เช่น การยึดเกาะของเซลล์ การเคลื่อนย้ายของเซลล์ และการรุกรานของเซลล์ ) ผ่านทางการยับยั้งการหลั่งของ urokinase-plasminogen activator (uPA) และยับยั้งการแสดงออกของ uPA receptor
จากการศึกษาของ Martínez-Montemayor MM และคณะ4 โดยทำการศึกษาในเซลล์มะเร็งเต้านมอักเสบ หรือเซลล์ Inflammatory breast cancer (IBC) โดยทำการศึกษาถึงมะเร็งเต้านมอักเสบ โดยธรรมชาติของการเกิด IBC นี้จะมีการลุกลามไปที่ระบบต่อมน้ำเหลืองและเป็นระยะที่ไม่สามารถคลำก้อนมะเร็งได้อย่างชัดเจน โดยเซลล์ IBC จะลุกลามโดยก่อให้เกิดการเปลี่ยนรูปร่างก้อนมะเร็งเป็นทรงกลมและมีการเกาะของ E-cadherin-based cell–cell อยู่โดยผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเห็ดหลินจือมีการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งอย่างเฉพาะเจาะจงแต่ไม่มีผลต่อการยับยั้งการเจริญของเซลล์เยื่อบุผิวเต้านมที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง เห็ดหลินจือยังยับยั้งการลุกลามและขัดขวางการเกิดเซลล์ทรงกลม ซึ่งเป็นลักษณะของเซลล์ IBC ที่มีระยะแพร่กระจาย นอกจากนี้เห็ดหลินจือยังลดการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของเซลล์มะเร็งและการแพร่กระจายซึ่งได้แก่ ยีน BCL-2, TERT, PDGFB และลดการแสดงออกของยีนของการลุกลามและแพร่กระจาย คือ ยีน MMP - 9 และเห็ดหลินจือยังลดจำนวนยีน Bcl - 2, Bcl – xL ซึ่งเป็นยีนในกลุ่มต่อต้านการตายของเซลล์มะเร็ง
อย่างไรก็ตาม เห็ดหลินจือเป็นเพียงส่วนหนึ่งในพืชสมุนไพรหลายอย่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่สามารถที่จะรักษาอาการป่วยได้ทุกโรค การใช้จึงควรมีวิจารณญาณ มีเหตุมีผล มีความรู้ ความเข้าใจ สรรพคุณและวิธีการใช้ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง และติดตามผลอย่างใกล้ชิดทั้งนี้เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วย หรือผู้บริโภคอย่างแท้จริง
เอกสารอ้างอิง
1.
เต็ม สมิตินันท์. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย(ชื่อพฤกษศาสตร์-ชื่อพื้นเมือง).
พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ฟันนี่พับบลิชชิ่ง; 2544.
2.
LIU GQ,
DING CY, WANG XL. Mechanisms of anticancer action of triterpenoids from
Ganoderma Lucidum :
A
review of recent researches. Mycosystema. 2007; 26(3):470-76.
3. กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.
เห็ดหลินจือ...จากการวิจัยสู่การใช้ประโยชน์. กรุงเทพมหานคร:
กระทรวงสาธารณสุข; 2553
4.
Martínez-Montemayor
MM, Acevedo RR, Otero-Franqui E, Cubano LA, Dharmawardhane SF.
Ganoderma
lucidum (Reishi) inhibits cancer cell growth and expression of key molecules in
inflammatory b
reast
cancer. Nutr Cancer. 2011 Oct; 63(7):
1085-94.
5.
Sliva
D.Ganoderma lucidum (Reishi) in cancer treatment. Integr Cancer Ther. 2003 Dec; 2(4): 358-64.
6.
Jiang J,
Jedinak A, Sliva D. Ganodermanontriol (GDNT) exerts its effect on growth and
invasiveness of breast
cancer
cells through the down-regulation of CDC20 and uPA.
Biochemical and Biophysical Research
Communications.
2011; 415: 325–9.